ธนาคารไทยพาณิขย์
 
 
Trade Finance
 
 
Home
Services
Information
Download
 
 
 
  More
Home > FTA > HOT ISSUE

  Hot Issue

FTA > HOT ISSUE

ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง อาเซียน-ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
  • ตั้งแต่วันที่12 มี.ค.เป็นต้นไป ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง อาเซียน-ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะมีผลบังคับใช้ระหว่างไทย โดยสินค้าและบริการกว่า97% หรือกว่า 5,800 รายการจะใช้ภาษี 0%สำหรับออสเตรเลียและสำหรับนิวซีแลนด์สินค้ากว่า90%หรือประมาณ6,500 รายการจะใช้ภาษี 0%เช่นกัน ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีทางเลือกในทางการค้ามากขึ้น
  - ตารางการลดภาษีของไทย(ไทย-ออสเตรเลีย) ... รายละเอียด >>
  - ตารางการลดภาษีของออสเตรเลีย(ไทย-ออสเตรเลีย) ... รายละเอียด >>
  - ตารางการลดภาษีของไทย(ไทย-นิวซีแลนด์) ... รายละเอียด >>
  - ตารางการลดภาษีของนิวซีแลนด์(ไทย-นิวซีแลนด์) ... รายละเอียด >>

จี้ “พาณิชย์” ทบทวนเอฟทีเอ
  • นายเกียรติ สิทธิอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย(ทีทีอาร์)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบข้อตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ที่มีผลบังคับใช้ไปแล้ว และที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา โดยให้มียุทธศาสตร์การเจรจาเพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุดและต้องไม่ใช่คำนึงแบบประเทศต่อประเทศ รวมทั้งต้องจัดทำแผนลดผลกระทบในสินค้าประเภทต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้เงินจากกองทุนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการเห็นการใช้เงินในเชิงรุกมากขึ้น
  • “ปัจจุบันไทยลงนามเอฟทีเอกับประเทศต่างๆแล้ว 12 ประเทศ ส่วนใหญ่ทำให้ไทยได้ดุลการค้ามากขึ้น ยกเว้นจีนที่ไทยขาดดุลการค้ามากเพราะนำเข้าสินค้าจากจีนมาก โดยที่ประชุมเห็นว่าต้องพิจารณาเป็นภาพรวมในเรื่องการขาดดุลการค้าของประเทศ รวมทั้งต้องเร่งแก้ไขปัญหาของข้อตกลงที่ได้ดำเนินการแล้ว ทั้งเอฟทีเอไทย-อินเดียที่อินเดียเปลี่ยนแปลงท่าทีการเจรจาบ่อยครั้งและอินเดียไม่ต้องการผูกพันการเปิดตลาดและขาดดุลการค้าให้ไทย ส่วนข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน(อาฟตา)ยังกังวลเรื่องการเปิดตลาดสินค้าเกษตรบางรายการรวมถึงการเปิดเสรีบริการบางสาขาที่ยังติดข้อกฎหมายของไทยและการเปิดเสรีการลงทุนที่ไทยขอสงวนการเปิดเสรีใน 3 สาขา”
  • ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในปีงบประมาณ 52 (ม.ค.-ก.ย.52)เอฟทีเอที่มีผลบังคับใช้แล้ว 6 ประเทศคืออาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีนและญี่ปุ่นนั้น มีการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้อาฟตามูลค่า 9,670.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯและการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบเอฟทีเอ 4 ประเทศคือออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีนและญี่ปุ่น 12,917.1 ล้านเหรียญฯ